เซี่ยงไฮ้ สั่งเพิ่มมาตรการความเข้มงวดของ ล็อกดาวน์ หลังจากที่ยอดยังเพิ่มต่อเนื่อง โดยสั่งย้าย ปชช. ออกจากที่พัก และให้ทิ้งสัตว์เลี้ยงที่บ้าน เมื่อวันที่ 22 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการนครเซี่ยงไฮ้ในประเทศจีนเตรียมยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง และจะเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 ที่นครเซี่ยงไฮ้ใช้มาตรการล็อกดาวน์
โดยในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาทางการจีนสั่งให้ประชาชนนับร้อยครัวเรือนให้ย้ายออกจากอาคารเพื่อที่เจ้าหน้าที่จะเข้าฆ่าเชื้อ
โดยจะสั่งย้ายประชาชนที่ติดโควิดและเป็นกลุ่มเสี่ยงให้ไปอยู่ในพื้นที่กักตัวที่รัฐบาลจัดเอาไว้
ทั้งนี้สำหรับบางพื้นที่ที่พบผู้ป่วยจำนวนมาก ระบบฆ่าเชื้ออาจจะต่างออกไป โดยจะบังคับให้ประชาชนทุกคนไม่ว่าจะติดเชื้อหรือไม่ก็ตามให้ย้ายออกจากที่พักของตน ซึ่งพื้นที่ในชุมชน เป๋ยไห์ ในเซี่ยงไฮ้ได้แจ้งให้ประชาชนออกจากพื้นที่ทั้งหหมด โดยเจ้าหน้าที่ให้เก็บข้าวของและเปิดประตูตู้เสื้อผ้าทิ้งเอาไว้ รวมไปถึงให้ทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้านพัก
ประเทศจีนนั้น ถือเป็นประเทศที่มีมาตรการกับโควิดต่างออกไป โดยหลายชาติมุ่งเน้นในการใช้มาตรการอยู่ร่วมกับโควิด ขณะที่จีนยังคงพยายามกดจำนวนผู้ป่วยโควิดให้เป็นศูนย์ ซึ่งเซี่ยงไฮ้อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม โดยจากการล็อกดาวน์เป็นระยะเวลานาน ประชาชนในนครเซี่ยงไฮ้ ได้ชุมนุมประท้วงรัฐบาลผ่านระเบียงบ้านของตนเอง เรียกร้องให้ทางรัฐนำอาหารมาส่ง
ด้วยมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดของทางการจีนนั้น ได้สั่งห้ามไม่ให้ประชาชนก้าวออกจากประตูบ้านเลย แม้ว่าจะเพื่อทิ้งขยะ หรือ การพาสุนัขออกไปเดินเล่นก็ตาม รวมถึงซื้ออาหาร ทั้งนี้ประชาชนจะออกนอกบ้านได้ ในการเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดเท่านั้น ซึ่งวิธีเดียวที่ประชาชนจะได้อาหารคือต้องรอให้รัฐบาลนำอาหารมาส่ง หรือ สั่งอาหารเองเท่านั้น
สำรวจ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วันคุ้มครองโลก 22 เม.ย. 65 เนื่องในวันสำคัญ วันคุ้มครองโลก 22 เมษายน 2565 พร้อมเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมประจำปี 2022 แผ่นน้ำแข็งแอนตาร์กติก ลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จุดประกายเรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สร้างความตระหนักของการรักษาสิ่งแวดล้อม
วันนี้ 22 เมษายน 2565 วันคุ้มครองโลก หรือ Earth day หนึ่งในวันสำคัญ เพื่อตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในเรื่องของมลภาวะทางอากาศ ปัญหาน้ำเน่าเสีย และการตัดไม้ทำลายป่า รวมถึงในแง่ของพลังงานด้านต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดเป็นภัยพิบัติ และวิถีชีวิตของมนุษย์
สาววีนแตกหลังเจอแท็กซี่เตือน อย่าวางเท้าบนเบาะ พร้อมยื่นเท้าให้ดม ถาม “หอมไหม?”
สาววีนแตกหลังเจอแท็กซี่เตือน เรื่องความสะอาด เพราะใช้เท้าเปล่าเหยียบเบาะรถ เหวี่ยงขนาดยื่นเท้าจ่อหน้าให้ดม พร้อมถาม “หอมไหม?”
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงกันไปทั้งไต้หวัน จากคลิปที่แท็กซี่ในไถจงทะเลาะกับผู้โดยสารสาวรายหนึ่ง เนื่องจากเธอใช้เท้าเปล่าเหยียบเบาะหลังรถ ก่อนที่กรรมจะไปตกกับคนขับแท็กซี่เพราะสาวเจ้าวีนแตกยื่นเท้ามาให้ดมถึงที่ พร้อมถามด้วยความไม่พอใจว่าหอมไหม?
ทางเพจเฟซบุ๊ก Tesla model3 多元計程車 ได้อัปโหลดคลิปวิดีโอดังกล่าวลงในเพจของตนเอง ถึงพฤติกรรมของผู้โดยสารหญิงท่านหนึ่ง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนที่ผู้โดยสารสาวจะปรี๊ดปรอทแตกนั้น ทางคนขับแท็กซี่เห็นว่าเธอใช้เท้าเปล่าเหยียบเบาะรถ เขาจึงถามเธอว่า “เท้าของคุณสะอาดหรือไม่ คุณวางเท้าบนพื้นได้ไหม” ซึ่งเขาไม่คาดคิดเลยว่าประโยคดังกล่าวจะไปกระตุกต่อมโมโหของผู้โดยสารได้ เธอเริ่มมองคนขับแท็กซี่ด้วยสายตาไม่พอใจ แถมยังตะโกนโวยวายเสียงดัง
ด้านแท็กซี่เองก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไปแต่แทนที่ผู้โดยสารหญิงจะสงบลง เธอกลับทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด นั้นก็คือการเหยียดเท้าเปล่าไปจ่อที่หน้าคนขับ พร้อมทั้งจงใจถามคนขับอีกด้วยว่า “คุณไม่อยากดูเหรอว่าเท้าของฉันสะอาดไหม มาเถอะ ดมสิ หอมไหม?”
ด้านคนขับสุดจะทนจึงได้โต้เถียงออกไปว่า ที่ถามนั้นเพื่อความแน่ใจว่าเท้าสะอาดจริง เพราะต้องรับส่งผู้โดยสารท่านอื่นอีก ฝ่ายหญิงสาวที่กำลังโมโหสุดขีดกลับโทรแจ้งฝ่ายบริการลูกค้า พร้อมอ้างว่าคนขับข่มขู่เธอ
เรียกได้ว่าพฤติกรรมของผู้โดยสารหญิงรายนี้กลายเป็นที่พูดถึงทั่วทั้งโลกออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยที่สนับสนุนให้คนขับแท็กซี่ดำเนินการร้องเรียนผู้โดยสารคนนี้ ชาวเน็ตบางส่วนก็แสดงความเห็นอกเห็นใจที่คนขับแท็กซี่รายนี้ต้องมาเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เรียกได้ว่าโพสต์ดังกล่าวนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงการกระทำที่ดูเสียสติของผู้โดยสารหญิง และล่าสุดทางคนขับแท็กซี่ก็ตัดสินใจที่จะรายงานคดีต่อสำนักงานเหออันในเมืองไถจง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และจะทำการรายงานความคืบหน้าอีกครั้งเมื่อถอดเสียงจากคลิปวิดีโอได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
