ล่าสุด Epic ผู้พัฒนาเกม Fortnite ออกมาแฉ Google ติดสินบนนักพัฒนาคนอื่น (Activision) จ่ายเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์คู่แข่ง เป็นการขอไม่ให้พวกเขาสร้าง Store ใหม่มาแข่ง Play Store Epic ยื่นฟ้อง Google ในปี 2020 ด้วยเหตุผลคล้ายคลึงกับคดีของ Apple โดยกล่าวหาว่า Google ได้จ่ายเงินให้นักพัฒนาคนอื่น (Activision) เพื่อไม่ให้สร้าง Store ที่เป็นคู่แข่งของ Play Store
เมื่อปี 2021 เอกสารยื่นฟ้องฉบับใหม่ได้เปิดเผย “Project Hug” นโยบายของ Google
ที่จะจ่ายเงินให้ผู้ผลิตเกมเพื่อยังคงเก็บเกมไว้ใน Play Store แทนที่จะย้ายไปยัง Store อื่นหรือสร้างเอง ในเอกสารกล่าวว่า Google จะ “แบ่งปันผลกำไรผูกขาดกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อรักษาข้อตกลงในการป้องกันการแข่งขัน” โดยหลักแล้วจะทำให้มั่นใจได้ว่า Play Store ของ Google จะยังคงเป็นทางเลือกเดียวสำหรับผู้ที่ต้องการเผยแพร่ซอฟต์แวร์ใหม่บน Android
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Reuters ได้รับเอกสารในเวอร์ชันที่ไม่ได้แก้ไขซึ่งเปิดเผยว่า Google เต็มใจจ่ายไม่อั้น เพื่อป้องกันการแข่งขัน โดยตามเอกสารพบว่า Google จ่ายเงินให้นักพัฒนา Blizzard ไปถึง 360 ล้านดอลลาร์ เพื่อป้องกันไม่ให้สร้างร้านแอปคู่แข่งของตัวเอง นอกจากนี้ Google ยังจ่ายเงินให้ผู้พัฒนาเกม League of Legends โดย Riot Games เป็นเงิน 30 ล้านดอลลาร์ด้วยเช่นกัน
ในเอกสารระบุว่า Blizzard ประกาศข้อตกลงในเดือนมกราคม 2020 หลังจากบอก Google ถึงแผนการออก App Store ของตัวเอง Epic อ้างว่า Google รู้ว่าผลตอบแทนเหล่านี้จะลดการแข่งขัน เพิ่มราคาสำหรับผู้บริโภค รวมไปถึงลดคุณภาพของบริการ
ทางฝากของ Google ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่าผลตอบแทนเหล่านี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดีในตลาด เนื่องจากการจ่ายเงินให้ผู้อื่นเพื่อบล็อกผู้แข่งขันถือเป็นการแข่งขันที่ดีต่อ Google
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Google ถูกกล่าวหาว่าขัดขวางการแข่งขันทางการตลาด ย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 Tim Sweeney เคยกล่าวว่า Google เคยพยายามซื้อ Epic Games เพียงเพื่อให้บริการ Fortnite ต่อไปและป้องกันไม่ให้ออกจาก Play Store
McVicker ได้กล่าวอ้างว่า Valve ได้ทำการพัฒนาในโครงการแยกที่มีชื่อว่า Citadel โดยอ้างอิงจากเขานั้น กลไกการเล่นของ Citadel นั้นมีความเข้ากันไปได้ด้วยดีกับตัวเครื่องเล่น Steam Deck ที่ซึ่งก็เป็นเหตุผลหลักในการพัฒนาเกมส์ที่ว่านี้
โดยเขาอธิบายประกอบว่า “Valve ได้อยู่ระหว่างการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่จะเป็นการแสดงประสิทธิภาพว่า Steam Deck นั้นสามารถทำอะไรได้บ้าง โครงการที่ว่านั้นก็คือ Citadel” “โดยมันนั้นจะเป็นการชุมรนุมกันของวันวาน, จะเป็น Half-Life แบบลูกครึ่งที่ผสมผสาน FPS/RTS และการเล่นแบบร่วมมือกัน (co-operatively) ลองนึกภาพ Left 4 Dead, Alien Swarm, RTS และ Half-Life มีลูกด้วยกันดู”
รู้จัก Gettr แพลตฟอร์มน้องใหม่ อาจมาแทนที่ Twitter
นั่งไม่ติดกันทั้งโลก เมื่อมีข่าวลือแว่วมาว่าทวิตเตอร์อาจล่ม จนมีคนออกมาบอกต่อแอปพลิเคชัน ‘Gettr’ แพลตฟอร์มใหม่มาแรง ที่ทำงานคล้ายกับ Twitter จนหลายคนแห่ไปสมัครเพื่อเตรียมความพร้อม งานนี้เราเลยไม่รอช้า พาทุกคนไปดูด้วยกันว่า Gettr คืออะไร มีจุดเด่นเรื่องไหน ถ้าอยากเล่นต้องดาวน์โหลดยังไงบ้าง
กระแสข่าวหนาหูว่าทวิตเตอร์ (Twitter) อาจกำลังล่ม หลังจากที่เจ้าของใหม่อย่าง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ปรับโครงสร้างบริษัท จนทำให้พนักงานเกือบทั้งหมดพากันลาออก ส่งผลให้เกิดความเชื่อว่าทวิตเตอร์อาจกำลังถึงคราวอวสานในเร็ววันนี้ จนต้องรีบหาแพลตฟอร์มใหม่เพื่อมารองรับการใช้งาน จนกระทั่งได้มีคนเริ่มพูดถึง ‘Gettr’
Gettr คือเทคโนโลยีสื่อสังคม ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเจสัน มิลเลอร์ (Jason Miller) อดีตเลขาธิการและโฆษกของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัล ทรัมป์ (Donald Trump) โดยแอปฯ ได้เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2021 ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการสนับสนุนกลุ่มอนุรักษ์นิยมอเมริกัน และได้มีผู้โหลดใช้งานแล้วกว่า 6.5 ล้านรายทั่วโลก
วิธีการใช้งานแอปพลิเคชัน Gettr มีความคล้ายคลึงกับทวิตเตอร์หลายอย่าง โดยจะเน้นไปที่เสรีภาพในการสื่อสารและการแสดงความคิดเห็น โดยทางแอปฯ จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานโพสต์เนื้อหา, ปักหมุด, แชร์เรื่องราว และรีโพสต์คอนเทนต์ของบัญชีอื่น ๆ ได้ โดยผู้ที่สนใจใช้งาน สามารถเข้าไปสมัครเพื่อเปิดบัญชีได้ที่ Gettr หรือดาวน์โหลดแอปฯ ในชื่อเดียวกันผ่าน Google Play Store/ Apple Store
แต่ถึงแม้ Gettr จะตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ในการเป็นแพลตฟอร์มทางเลือกแทนทวิตเตอร์ แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่นิยมใช้แอปพลิเคชันนี้ เนื่องจากเล็งเห็นถึงความไม่เหมาะสมหลายอย่าง เกี่ยวกับเนื้อหาอิสระที่ถูกแพร่กระจายลงอินเทอร์เน็ต อาทิ การสนับสนุนกลุ่มอนุรักษ์นิยมอเมริกัน การโพสต์ภาพอนาจาร การเหยียดเพศและเชื้อชาติ ตลอดจนการโฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้าย
ทำให้ในปัจจุบัน ผู้คนยังคงถกเถียงกันว่า การย้ายไปสนับสนุนแอปพลิเคชัน Gettr คือเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ โดยแม้หลายคนจะหวั่นว่าทวิตเตอร์อาจล่ม แต่ก็ยังไม่มีความคิดที่จะหันไปสนับสนุน Gettr แต่อย่างใด.
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป