ชัยวุฒิ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม. เผย อบจ. มีหน้าที่เป็นแค่ผู้ประสานไม่มีอำนาจ ยกเลิกอัญเชิญพระเกี้ยว นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. จากกรณีที่ คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีมติ 29 ต่อ 0 ยกเลิกกิจกรรมอัญเชิญพระเกี้ยว ในการแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์
โดยนายชัยวุฒิกล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เห็นว่า องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) เป็นเพียงผู้ประสานงาน ไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรแทนคนทั้งมหาวิทยาลัย โดยกิจกรรมทั้งหมดเป็นเรื่องของนิสิต และศิษย์เก่าที่มาช่วยกัน
อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องของคณะกรรมการ อบจ.ที่มีอยู่ประมาณ 20 คน มาเป็นคนตัดสินให้ใครทำนั่นทำนี่ ตนคิดว่าเขาไม่มีอำนาจขนาดนั้น แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนในมหาวิทยาลัยต้องมาพูดคุยกัน นอกจากนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีวัฒนธรรม มีศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจ และมีศิษย์เก่ามากมาย ดังนั้นการจะทำอะไรก็ขอให้คิดถึงเรื่องในอดีตและคิดถึงคนอื่นเขาด้วย
“ส่วนที่มีคนไปพูดว่า ไม่มีใครอยากมาแบกเสลี่ยงอัญเชิญพระเกี้ยว ผมยืนยันว่า ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแน่นอน เพราะสมัยตอนที่ผมเรียนอยู่ มีแต่คนแย่งกันไปแบกเสลี่ยง เพราะถือเป็นความภาคภูมิใจที่เราได้ทำหน้าที่นี้ในงานฟุตบอลประเพณีฯ แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป ผมยังเชื่อว่าคุณค่าและความรู้สึกของนิสิตจะยังไม่เปลี่ยนไป ความภาคภูมิใจของพวกเรายังคงอยู่ เพียงแต่คนบางกลุ่มพยายามด้อยค่าสิ่งเหล่านี้ ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นคนที่จะทำอะไรก็ควรฟังคนอื่นด้วย ไม่ใช่คิดถึงแต่ตัวเอง” นายชัยวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า อธิการบดี หรือผู้บริหารมหาวิทยาลัย ต้องออกมาจัดการเรื่องนี้อย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นเรื่องของมหาวิทยาลัย ตนในฐานะที่เป็นศิษย์เก่า คิดว่า การที่นิสิตปัจจุบันจะทำอะไรก็อยากให้คิดถึงศักดิ์ศรีเกียรติภูมิ และความภาคภูมิใจของเราที่ได้สั่งสมกันมา และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก่อตั้งโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 นี่คือสิ่งที่ทุกคนภาคภูมิใจ ตนจึงอยากให้ทุกคนรำลึกถึงนี้สิ่งนี้ไว้ตลอด
‘ธนกร’ อัด ‘พิธา’ นักท่องเที่ยวภูเก็ตเยอะ ชี้ไม่เปิดประเทศแบบมัดมือชก
นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโหม มัดมือชกคนทั้งประเทศเพียงเพราะไม่อยากผิดคำพูดที่ตอนแรกพูดว่าจะฉีดให้ได้ 50 ล้านโดสก่อนเปิดประเทศ แต่สุดท้ายก็ฉีดไม่ถึงว่า พล.อ.ประยุทธ์มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลด้านสาธารณสุขของประชาชนไทย ซึ่งขณะนี้ยอดการฉีดวัคซีนสะสมของไทยกว่า 70 ล้านโดสแล้ว
ยืนยันว่ารัฐบาลเดินหน้าฉีดวัคซีนได้ตามแผนที่วางไว้ 50 ล้านคน ครอบคลุมประชากร 70 เปอร์เซ็นต์ภายในปีนี้อย่างแน่นอน จึงทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง เห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงการดำเนินการมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลด้วยว่า ต้องคำนึงถึงประโยชน์โดยรวมของประเทศเป็นสำคัญ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ โดยที่คนไทยทุกคนร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการพลิกโฉมประเทศ
นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ระบุว่า การเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ น่าเสียดายมากๆเป็นการเปิดที่ไร้วิสัยทัศน์ เป็นการเปิดแบบตามยถากรรมนั้น จากการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์พบว่า ตั้งแต่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางมาใช้บริการมากขึ้น
ขณะเดียวกันแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดภูเก็ต กิจการร้านค้า ต่างกลับมาเปิดให้บริการเกือบปกติแล้ว ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1-21 ตุลาคม 2564 มากถึง 53,120 คน มียอดเงินใช้จ่ายแล้วกว่า 3,192 ล้านบาท ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ถือเป็นความาสำเร็จของประเทศไทย ต่างประเทศก็ชื่นชมมีเพียงนายพิธาที่สมองเหมือนไม่รับรู้อะไรเลยอยู่ในกลุ่มพวกไม่อยากให้รัฐบาลทำสำเร็จ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 18/2564 เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพิ่มจังหวัดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด เริ่ม 1 พฤศจิกายนนี้
รวมทั้ง ศบค.ออกข้อกําหนด ฉบับที่ 36 ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานหรือยกเลิกเคอร์ฟิวส์ในพื้นที่นําร่องด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีผลต้ังแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จะส่งผลบวกต่อบรรยากาศทั้งการเปิดประเทศ และการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป